เทคโนโลยีที่ใช้ในการผลิตแบตเตอรี่ได้ก้าวหน้ามาไกลจากยุคของเซลล์แก้วและกล่องไม้ ปัจจุบันเรามีเทคโนโลยีเฉพาะทางและความก้าวหน้ามากมาย วันนี้เราจะมาหาคำตอบกันว่าเทคโนโลยี AGM และ GEL ที่เราเห็นในแบตเตอรี่ตามท้องตลาดนั้นมีความแตกต่างกันอย่างไร
ก่อนที่เราจะเจาะลึกความแตกต่างระหว่างทั้งสอง มาดูกันก่อนว่าแต่ละอย่างคืออะไรกันแน่
แบตเตอรี่ AGM
เทคโนโลยี AGM ย่อมาจาก Absorbent Glass Mat เป็นแผ่นใยแก้วดูดซับ หมายถึงแผ่นใยแก้วละเอียดที่สามารถดูดซับกักเก็บกรดซัลฟิวริกไว้ในแผ่นใยแก้วได้ ทำให้แบตเตอรี่ไม่เกิดการรั่วไหล ในช่วงทศวรรษที่ 1980 ความต้องการแบตเตอรี่ที่มีน้ำหนักเบากว่าและเป็นอันตรายน้อยกว่าซึ่งสามารถใช้ในเครื่องบินและยานพาหนะเพิ่มมากขึ้น
เทคโนโลยี AGM ช่วยให้ตอบสนองความต้องการดังกล่าวได้ แบตเตอรี่สามารถเดินทาง-ขนส่งได้โดยไม่มีปัญหาเรื่องวัสดุอันตราย และการสร้างแผ่นใยแก้วส่งผลทำให้แบตเตอรี่สามารถมีขึ้นรูปร่างเป็นทรงกระบอกหรือลูกบาศก์สี่เหลี่ยมแบบดั้งเดิมได้
แบตเตอรี่ GEL
เทคโนโลยี GEL นั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง แบตเตอรี่เซลล์แบบเจลเป็นแบตเตอรี่ที่ใช้กรดซัลฟิวริกผสมกับซิลิกาฟูมเพื่อสร้างสารคล้ายเจลที่ไม่สามารถรั่วไหลได้ เนื่องจากมีเซลล์เจล แบตเตอรี่จึงไม่จำเป็นต้องตั้งตรงและอิเล็กตรอนสามารถไหลระหว่างแผ่นธาตุได้โดยไม่ต้องกังวลว่าจะหกเลอะเทอะ เหมาะที่จะใช้ในสถานที่ที่ไม่มีการระบายอากาศมากนัก
โอเค ตอนนี้เราก็พอจะเข้าใจแล้วว่าแบตเตอรี่ทั้ง 2 อย่างมีลักษณะเป็นอย่างไร ทีนี้เรามาลองเปรียบเทียบแบตเตอรี่ทั้ง 2 ตัวกันบ้างดีกว่าว่ามีอะไรที่แตกต่างกันบ้าง
ความแตกต่าง
แม้ว่าแบตเตอรี่ทั้งสองชนิดนี้จะไม่เหมือนกัน แต่ก็มีความคล้ายคลึงกันที่ทำให้หลายคนสับสนระหว่างทั้งสองชนิดนี้ แบตเตอรี่ทั้งสองชนิดนี้ไม่สามารถรั่วไหลได้ เป็นแบตเตอรี่แบบ Deep Cycle (หมายความว่าสามารถปล่อยประจุได้ลึกอย่างเต็มที่) และสามารถทำการขนส่งได้อย่างปลอดภัย นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติอื่นๆ อีกด้วย แล้วอะไรที่ทำให้แบตเตอรี่ทั้งสองชนิดนี้แตกต่างกัน?
AGM
- เหมาะ เมื่อต้องการแบตเตอรี่ที่มีอัตราการคายประจุสูง
- สามารถชาร์จซ้ำได้ง่าย
- สามารถผลิตได้ในต้นทุนที่ต่ำกว่าแบตเตอรี่เจล
- มีความต้านทานภายในต่ำ
- ทำงานได้ดีในอุณหภูมิต่ำกว่า 32 องศาเซลเซียส
Gel
- มีกำลังไฟฟ้าต่ำกว่า– มีอายุการใช้งานยาวนานกว่า
- ทำงานได้ดีในสภาพแวดล้อมที่อบอุ่น
- ทำงานได้ดีกับอัตราการคายประจุที่ช้า
- หากชาร์จซ้ำไม่ถูกต้อง แบตเตอรี่จะใช้งานไม่ได้ก่อนสิ้นสุดอายุการใช้งาน
- สามารถติดตั้งได้ในทุกทิศทาง
- ไม่เหมาะกับการใช้งานในพื้นที่ ที่อุณหภูมิต่ำกว่าจุดเยือกแข็ง
ดังนั้น เมื่อใดที่คุณกำลังพยายามตัดสินใจว่าจะซื้อแบตเตอรี่ AGM หรือ GEL ควรพิจารณาจากสิ่งต่อไปนี้
- คุณจะใช้งานแบตเตอรี่เพื่อวัตถุประสงค์อะไร
- พื้นที่หน้างาน แบตเตอรี่จะต้องทำงานภายใต้อุณหภูมิต่ำกว่าจุดเยือกแข็งหรือไม่
- คุณจะชาร์จแบตเตอรี่อย่างไร
- คุณต้องการอัตราการคายประจุที่ช้าหรือคุณต้องการอัตราการคายประจุที่สูง
เมื่อคุณได้คำตอบสำหรับคำถามเหล่านี้แล้ว คุณก็สามารถตัดสินใจได้ว่าแบตเตอรี่ชนิดใดเหมาะกับคุณที่สุด สภาพอากาศที่อบอุ่นกว่าและอัตราการคายประจุที่ต่ำลง การเลือกแบตเตอรี่ GEL อาจเป็นคำตอบของคุณ หากหน้างานต้องทำงานภายใต้อุณหภูมิต่ำกว่าจุดเยือกแข็งและคุณต้องการใช้แบตเตอรี่เป็นแบตเตอรี่สตาร์ทเตอร์ ให้เลือก AGM ได้เลย การทำความเข้าใจเกี่ยวกับแบตเตอรี่ที่คุณกำลังจะซื้อจะช่วยป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับอุปกรณ์ของคุณและช่วยยืดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ได้